เมื่อพูดถึงการท่องเที่ยวในเกาหลีใต้ หลายคนอาจนึกถึงกรุงโซล เมืองปูซาน หรือการช้อปปิ้งในย่านฮงแด แต่สำหรับผู้ที่ต้องการประสบการณ์ที่ลึกซึ้ง เงียบสงบ และเชื่อมโยงกับธรรมชาติและวัฒนธรรมอย่างแท้จริง เกาะ ต่าง ๆ ในเกาหลีใต้คือจุดหมายที่ควรไปสัมผัสอย่างน้อยสักครั้งในชีวิต
เกาะในเกาหลีใต้มีเอกลักษณ์ที่หลากหลาย ทั้งภูมิทัศน์ธรรมชาติที่งดงาม วิถีชีวิตท้องถิ่นที่เรียบง่าย และวัฒนธรรมที่สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการหลีกหนีความวุ่นวายและสัมผัสเสน่ห์ของชีวิตที่เรียบง่ายแต่เปี่ยมไปด้วยคุณค่า
เกาะเชจู: มรดกทางธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่

เกาะเชจู (Jeju Island) คือเกาะที่ใหญ่ที่สุดของเกาหลีใต้ และเป็นที่รู้จักกันในฐานะมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก ด้วยภูมิประเทศที่เกิดจากภูเขาไฟ พื้นที่สีเขียว และแนวชายฝั่งที่ทอดยาว เชจูจึงเป็นจุดหมายที่รวมเอาความงามทางธรรมชาติ ความสงบ และวัฒนธรรมพื้นเมืองไว้ได้อย่างลงตัว
จุดเด่นของเกาะเชจู
- ภูเขาฮัลลาซาน: ภูเขาไฟที่สูงที่สุดในเกาหลี
- ถ้ำลาวามันจังกูล: ถ้ำธรรมชาติที่เกิดจากลาวาเก่า
- หมู่บ้านพื้นเมืองเซองอึบ: สะท้อนวิถีชีวิตของชาวเชจูดั้งเดิม
- ทุ่งดอกไม้และสวนชา: ให้ความรู้สึกสงบและสดชื่นตลอดทั้งปี
เกาะนามิ: ความโรแมนติกในธรรมชาติที่อ่อนโยน
เกาะนามิ (Nami Island) แม้จะมีขนาดเล็ก แต่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ เป็นสถานที่ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะคู่รักและผู้ที่ชื่นชอบธรรมชาติที่อ่อนโยน
จุดเด่นของเกาะนามิ
- ทางเดินต้นไม้เรียงราย เช่น แปะก๊วยและเมเปิล
- กิจกรรมกลางแจ้ง เช่น ปั่นจักรยาน พายเรือ
- นิทรรศการศิลปะและวัฒนธรรมท้องถิ่น
- ร้านกาแฟและร้านอาหารที่ตกแต่งอย่างอบอุ่น
เกาะนามิเปลี่ยนสีตามฤดูกาล ทำให้คุณสามารถมาเที่ยวซ้ำในฤดูต่าง ๆ และได้ความรู้สึกที่ไม่เหมือนเดิม
เกาะอุลลึง: สวรรค์ของนักเดินทางสายธรรมชาติ
เกาะอุลลึง (Ulleungdo) ตั้งอยู่ในทะเลตะวันออก เป็นหนึ่งในเกาะที่ยังคงความบริสุทธิ์ทางธรรมชาติไว้อย่างเหนียวแน่น ด้วยหน้าผาสูงชัน ป่าไม้หนาแน่น และทะเลสีครามที่ล้อมรอบ ที่นี่จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการผจญภัย และหลีกหนีจากนักท่องเที่ยวจำนวนมาก
จุดเด่นของเกาะอุลลึง
- เส้นทางเดินเขาและจุดชมวิวริมทะเล
- อาหารทะเลสด โดยเฉพาะปลาหมึกและหอยเม่น
- หมู่บ้านชาวประมงและวิถีชีวิตที่ยังคงความเรียบง่าย
- ความสงบที่หาไม่ได้จากแหล่งท่องเที่ยวหลัก
เกาะทงยองและคอจาโด: ศิลปะ วัฒนธรรม และชีวิตริมทะเล
ทางตอนใต้ของเกาหลีคือที่ตั้งของเกาะทงยอง (Tongyeong) และเกาะคอจาโด (Geoje Island) ซึ่งแม้จะไม่เป็นที่รู้จักในหมู่นักท่องเที่ยวต่างชาติมากนัก แต่ก็เปี่ยมด้วยคุณค่าทางวัฒนธรรมและศิลปะ
จุดเด่นของเกาะเหล่านี้
- หมู่บ้านศิลปะบนเนินเขา
- พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านและตลาดทะเล
- สวนธรรมชาติและสะพานชมวิว
- วิถีชีวิตที่ผสมผสานระหว่างชาวประมงกับศิลปินท้องถิ่น
ความสงบคือสิ่งที่คุณจะได้รับ
สิ่งที่ทำให้เกาะต่าง ๆ ในเกาหลีใต้มีความพิเศษ ไม่ได้อยู่แค่ในทัศนียภาพหรืออาหารเท่านั้น แต่คือ “ความสงบ” ที่แทรกอยู่ในทุกจังหวะของการเดินทาง บางเกาะไม่มีรถยนต์วิ่ง บางแห่งมีเพียงจักรยานเป็นพาหนะ บางที่ให้คุณได้ตื่นเช้าพร้อมกับเสียงคลื่นและแสงแดดที่อ่อนโยน นี่คือความสุขอย่างเรียบง่ายที่หายากในชีวิตประจำวัน
วางแผนเที่ยวเกาะเกาหลีอย่างชาญฉลาด
การเดินทางไปยังเกาะต่าง ๆ ในเกาหลีใต้ไม่ใช่เรื่องยุ่งยาก แต่ต้องอาศัยการวางแผนที่ดีเพื่อใช้เวลาให้คุ้มค่าและได้สัมผัสประสบการณ์ที่หลากหลายที่สุด
1. เลือกเกาะให้เหมาะกับสไตล์การเดินทางของคุณ
- หากคุณต้องการการพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติและกิจกรรมผจญภัยเบา ๆ เช่น ปีนเขา ชมวิวทะเล หรือแช่น้ำพุร้อนในบรรยากาศเงียบสงบ เกาะเชจูและเกาะอุลลึง คือคำตอบ
- หากคุณมองหาบรรยากาศโรแมนติก เดินเล่นชิลล์ ๆ ถ่ายภาพวิวสวย และใกล้กรุงโซล เกาะนามิ คือตัวเลือกที่ไม่ผิดหวัง
- หากคุณสนใจประวัติศาสตร์ ชุมชนพื้นบ้าน และวิถีชีวิตท้องถิ่นแบบดั้งเดิม เกาะทงยองและเกาะคอจาโด จะทำให้คุณได้สัมผัสความเรียบง่ายแต่ลึกซึ้ง
2. ระยะเวลาที่ควรใช้
- สำหรับเกาะใกล้เมืองหลวง เช่น เกาะนามิ ใช้เวลาเพียง 1 วันก็เที่ยวได้ครบ
- สำหรับเกาะขนาดใหญ่ เช่น เชจู หรืออุลลึง ควรวางแผนอยู่ประมาณ 3 – 4 วัน เพื่อเที่ยวให้ทั่วและไม่เร่งรีบ
ท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน: สัมผัสโดยไม่รบกวน
เกาหลีใต้ให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และการดูแลทรัพยากรธรรมชาติ นักท่องเที่ยวสามารถเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมได้อย่างง่ายดาย
ตัวอย่างแนวทางที่คุณสามารถทำได้
- ใช้ถุงผ้าและขวดน้ำรีฟิลเมื่อลงพื้นที่เกาะ เพื่อลดขยะพลาสติก
- สนับสนุนธุรกิจท้องถิ่น เช่น ที่พักแบบโฮมสเตย์ ร้านอาหารของชาวบ้าน หรือเวิร์กชอปหัตถกรรม
- เลือกกิจกรรมที่ไม่ทำร้ายระบบนิเวศ เช่น การเดินป่าโดยใช้เส้นทางที่กำหนด การดำน้ำแบบไม่สัมผัสปะการัง และการดูนกโดยไม่รบกวนถิ่นอาศัยของสัตว์
เส้นทางแนะนำ: ตัวอย่างแผนเที่ยว 5 วัน 4 คืน
วันแรก: เดินทางจากโซลไปเชจู เที่ยวชายหาด อาหารทะเล และเดินเล่นยามเย็นในเมืองเจจู
วันที่สอง: ปีนเขาฮัลลาซานหรือเดินเล่นในสวนพฤกษชาติ เยี่ยมชมหมู่บ้านพื้นเมือง
วันที่สาม: ล่องเรือไปยังเกาะอุโด เที่ยวไร่ชาและทุ่งดอกไม้ กลับเข้าเมือง
วันที่สี่: บินกลับโซล ต่อรถไปเกาะนามิ เที่ยวชมฤดูกาลใบไม้เปลี่ยนสีหรือหิมะ
วันที่ห้า: พักผ่อน เดินเล่นในเมืองใกล้เคียง ก่อนเดินทางกลับ
แผนนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการชมเกาะทั้งขนาดใหญ่และเล็ก พร้อมสลับบรรยากาศทั้งธรรมชาติ วัฒนธรรม และการพักผ่อนแบบเบา ๆ
แรงบันดาลใจจากการเดินทาง: เกาะเกาหลีในมุมมองใหม่
หลายคนอาจเคยเห็นภาพถ่ายของเกาะเชจูยามพระอาทิตย์ตก หรือใบไม้เปลี่ยนสีบนเกาะนามิ แต่การได้ “อยู่” ณ สถานที่นั้นจริง ๆ คือประสบการณ์ที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง การเดินผ่านป่าไม้ริมทะเล ฟังเสียงลมพัดผ่านหน้าผา หรือสัมผัสรอยยิ้มของชาวบ้านที่เรียบง่ายและจริงใจ ล้วนเป็นองค์ประกอบเล็ก ๆ ที่รวมกันเป็นความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย แต่จะตราตรึงใจไปอีกนาน
ใครเหมาะกับการเที่ยวเกาะในเกาหลีใต้
- คนที่ต้องการพักผ่อนจากชีวิตในเมือง: ธรรมชาติและบรรยากาศเงียบสงบช่วยฟื้นฟูจิตใจได้ดี
- คู่รักหรือครอบครัว: เกาะเล็กๆ เหล่านี้เหมาะกับช่วงเวลาพิเศษที่ต้องการความโรแมนติกหรือใกล้ชิด
- นักเดินทางสายถ่ายภาพ: วิวธรรมชาติ แสงแดด และวิถีชีวิตที่เรียบง่ายคือวัตถุดิบชั้นยอดสำหรับการสร้างผลงาน
- คนรักวัฒนธรรม: แต่ละเกาะมีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมที่น่าสนใจ ตั้งแต่เทศกาลพื้นบ้านจนถึงอาหารท้องถิ่น
คำแนะนำสุดท้ายสำหรับนักเดินทาง: เริ่มต้นอย่างมั่นใจ
แม้เกาะในเกาหลีใต้จะไม่ใช่จุดหมายหลักที่หลายคนมองหาในทริปแรก แต่หากคุณเปิดใจสักนิด คุณจะพบว่าเส้นทางสู่เกาะเหล่านี้ทั้งเดินทางไม่ยาก และเต็มไปด้วยคุณค่าที่คุ้มเกินเวลาและค่าใช้จ่าย
วิธีเริ่มต้นง่ายที่สุด
- เลือก 1 เกาะที่เหมาะกับเวลาและความสนใจ เช่น ถ้าคุณมีเวลาแค่ 1 วัน ให้เลือกเกาะนามิ ถ้ามีเวลา 3-4 วัน เกาะเชจูคือคำตอบ
- กำหนดจุดออกเดินทางหลัก เช่น จากโซลหรือปูซาน แล้ววางเส้นทางต่อเรือหรือบินภายในประเทศ
- จองที่พักล่วงหน้าโดยเฉพาะในฤดูท่องเที่ยว เพราะที่พักในบางเกาะจะเต็มเร็วมาก
- เตรียมอินเทอร์เน็ตและแอปแปลภาษา แม้ว่าคนท้องถิ่นส่วนมากเป็นมิตร แต่ในบางเกาะ ภาษาอังกฤษอาจไม่แพร่หลาย
- เผื่อเวลาไว้สำหรับการเดินทางและการพักจริง ๆ บางเกาะไม่มีแหล่งบันเทิงมากมาย แต่ความน่าหลงใหลอยู่ที่การได้ “อยู่กับตัวเอง” มากกว่าการวิ่งตามโปรแกรม
ข้อควรระวังเล็กน้อย
- เกาะบางแห่งมีข้อจำกัดด้านการเดินทาง เช่น เรือออกเฉพาะรอบ หรือในฤดูหนาวอาจปิดชั่วคราว ควรตรวจสอบล่วงหน้าจากเว็บไซต์การท่องเที่ยวท้องถิ่น
- สัญญาณโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตในบางจุดอาจไม่เสถียร โดยเฉพาะบนภูเขาหรือชายฝั่งที่ห่างไกล
- ควรเตรียมเงินสดติดตัวเล็กน้อย เพราะร้านค้าบางแห่งอาจไม่รับบัตรเครดิต โดยเฉพาะในหมู่บ้านชาวประมงหรือจุดขายอาหารพื้นเมือง
เพราะ “เกาะ” ไม่ได้แปลว่าไกลเสมอไป
คำว่า “เกาะ” อาจทำให้ใครหลายคนรู้สึกว่าต้องเดินทางยาก ใช้เวลานาน หรือมีความท้าทายในการเข้าถึง แต่ในเกาหลีใต้ ความเป็น “เกาะ” กลับถูกผสมผสานไว้อย่างลงตัวกับระบบขนส่งที่สะดวกสบาย ความปลอดภัย และความพร้อมในการต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างอบอุ่น
คุณสามารถเดินทางจากโซลไปเชจูได้ภายในเวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมง
คุณสามารถขึ้นเรือจากท่าเรือกังนึงไปอุลลึงได้ในเช้าตรู่ แล้วใช้เวลาทั้งวันอยู่กับภูเขาและทะเล
คุณสามารถใช้เพียงครึ่งวันเพื่อเดินชมใบไม้เปลี่ยนสีบนเกาะนามิอย่างสงบ และจิบกาแฟใต้ต้นไม้
สิ่งเหล่านี้ไม่ไกลอย่างที่คิด และไม่มีอะไรต้องรอ
แรงบันดาลใจคือจุดเริ่มต้นของการเดินทาง
เราอาจเคยเดินทางเพราะอยาก “ไป” ให้ถึงจุดหมาย
แต่การเที่ยวเกาะในเกาหลีใต้ จะทำให้เราได้รู้ว่า… บางครั้งการเดินทางคือการ “อยู่” กับบางสิ่งให้ชัดเจน
อยู่กับธรรมชาติ อยู่กับลมหายใจ อยู่กับความเงียบ อยู่กับความรู้สึก
ไม่จำเป็นต้องมีแผนการแน่นอน
ไม่จำเป็นต้องเก็บทุกจุดเช็กอิน
ไม่จำเป็นต้องรีบ
แค่ใช้หัวใจเดินไปอย่างช้า ๆ แล้วทุกเกาะจะเล่าเรื่องของมันเองให้เราฟัง