Close Menu
    Facebook X (Twitter) Instagram
    chiangraifirepump
    • Home
    • ความบันเทิง
    • ข่าวสารล่าสุด
    • สุขภาพ
    • สูตรอาหาร
    chiangraifirepump
    สูตรอาหาร

    บังออปังสไตล์ เกาหลี เหนือ: รสหวานชวนคิดถึงในวันที่อากาศหนาว

    Walter TurnerBy Walter TurnerOctober 28, 2025No Comments2 Mins Read

    ในวันที่อากาศเย็นจนลมหายใจกลายเป็นควันขาว ไม่มีอะไรจะปลอบประโลมหัวใจได้ดีไปกว่าขนมอุ่น ๆ จากเตา และสำหรับชาว เกาหลี เหนือ “บังออปัง” หรือขนมรูปปลาย่างไส้ถั่วแดง คือของหวานที่เต็มไปด้วยความทรงจำ ความเรียบง่าย และกลิ่นอายของชีวิตในฤดูหนาว บังออปังไม่เพียงเป็นขนมที่อร่อย หากแต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของความหวังเล็ก ๆ ท่ามกลางความหนาวเหน็บที่ปกคลุมผืนแผ่นดิน

    แม้หลายคนจะคุ้นเคยกับบังออปังในแบบเกาหลีใต้ที่มักขายตามรถเข็นริมถนน แต่ในเกาหลีเหนือ ขนมชนิดนี้กลับมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งในแง่ของส่วนผสม วิธีการอบ และความหมายทางวัฒนธรรมที่ฝังแน่นอยู่ในชีวิตประจำวันของผู้คน


    ต้นกำเนิดของบังออปัง: จากปลาในจานสู่ปลาขนมในมือ

    บังออปังมีรากฐานมาจากขนมญี่ปุ่นที่ชื่อว่า “ไทยากิ” ซึ่งถูกนำเข้ามายังคาบสมุทรเกาหลีในช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 สมัยที่ญี่ปุ่นปกครองเกาหลี เดิมทีเป็นขนมสำหรับชนชั้นกลางในเมืองใหญ่ แต่เมื่อเวลาผ่านไป ชาวเกาหลีได้ดัดแปลงสูตรให้เข้ากับวัตถุดิบที่หาได้ง่ายขึ้น เช่น แป้งสาลีพื้นบ้านและไส้ถั่วแดงกวน

    หลังการแบ่งแยกประเทศ บังออปังเดินทางคนละทิศกับประชาชนที่อยู่เหนือและใต้เส้นขนานที่ 38 ในเกาหลีใต้ ขนมชนิดนี้กลายเป็นของกินเล่นยอดนิยมตามถนนหนทาง โดยมีการปรับสูตรให้หวานและกรอบมากขึ้น ขณะที่ในเกาหลีเหนือ บังออปังถูกทำให้เรียบง่ายกว่า เน้นเนื้อแป้งที่หนาและไส้ที่ไม่หวานจัด เพื่อให้เหมาะกับการบริโภคในสภาพอากาศหนาวจัด


    เสน่ห์ของบังออปังสไตล์เกาหลีเหนือ

    สิ่งที่ทำให้บังออปังของเกาหลีเหนือแตกต่างคือ “ความเรียบง่ายที่เต็มไปด้วยความตั้งใจ” แป้งที่ใช้มักทำจากแป้งสาลีผสมข้าวโพดบดละเอียด ให้รสสัมผัสที่แน่นกว่าและกลิ่นหอมคล้ายธัญพืช ส่วนไส้ถั่วแดงกวนจะมีเนื้อหยาบเล็กน้อย เพราะใช้วิธีบดด้วยมือมากกว่าจะกรองให้เนียนเหมือนในเกาหลีใต้

    กลิ่นหอมของถั่วแดงต้มในน้ำตาลแดงอ่อน ๆ ผสมกับกลิ่นไหม้นิด ๆ จากพิมพ์เหล็กคือสิ่งที่ทำให้บังออปังสไตล์เกาหลีเหนือมีเอกลักษณ์ยากจะลืม หลายคนมักอธิบายว่ารสชาติของมัน “ไม่หวานแต่เต็มไปด้วยความรู้สึก” — ความรู้สึกของบ้าน ความอบอุ่น และความทรงจำในวัยเยาว์

    ขนมนี้มักขายในตลาดพื้นเมืองช่วงฤดูหนาว โดยเฉพาะในเมืองเปียงยางและฮัมฮึง ผู้คนจะมุงรอบเตาอบรูปปลาที่ตั้งอยู่ข้างถนน ขณะที่แม่ค้ากลับพลิกขนมไปมาในพิมพ์เหล็กร้อน ๆ กลิ่นหวานลอยคลุ้งไปทั่วตรอกซอย เสียงแป้งกระทบพิมพ์กลายเป็นจังหวะที่อบอุ่นใจในวันที่อากาศเย็นจัด


    สัญลักษณ์ของความอิ่มและความสุขเล็ก ๆ

    ในเกาหลีเหนือที่ฤดูหนาวอาจยาวนานและทรัพยากรมีจำกัด บังออปังไม่ได้เป็นเพียงขนมหวาน แต่เป็นอาหารที่ให้พลังงานและความอิ่มท้องสำหรับผู้คนจำนวนมาก ในช่วงที่ขาดแคลนวัตถุดิบบางอย่าง ถั่วแดงอาจถูกแทนด้วยมันฝรั่งบด ผักหวาน หรือแม้แต่ฟักทองกวน ซึ่งให้รสชาติที่ต่างกันออกไปแต่ยังคงรักษาความหมายเดิม — คือความอบอุ่นในยามหนาว

    สำหรับเด็ก ๆ ในเกาหลีเหนือ บังออปังคือของรางวัลในวันที่พ่อแม่กลับจากตลาด หรือเป็นขนมที่ได้แบ่งกันกินระหว่างเพื่อน ๆ หลังเลิกเรียน เป็นช่วงเวลาสั้น ๆ แห่งความสุขที่ช่วยลืมความเหน็บหนาวของลมหนาวและหิมะที่ปกคลุมเมือง


    พิธีกรรมเล็ก ๆ แห่งฤดูหนาว

    ในหลายครอบครัว บังออปังยังถือเป็นขนมประจำฤดูหนาวที่ทุกคนรอคอย เมื่ออากาศเริ่มเย็นลง ผู้ใหญ่จะตั้งเตาเล็ก ๆ หน้าบ้าน ทำแป้งและกวนถั่วแดงไว้ตั้งแต่เช้า กลิ่นหอมของขนมที่กำลังอบจะลอยออกมาทั่วบ้าน เป็นสัญญาณว่าฤดูหนาวได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว

    เด็ก ๆ จะยืนมองอย่างตื่นเต้น ขณะที่แม่หรือยายกลับพลิกขนมในพิมพ์เหล็กอย่างชำนาญ พออบเสร็จ ขนมร้อน ๆ จะถูกวางบนจานไม้ แล้วทุกคนก็แบ่งกันกินทีละคำ มันคือช่วงเวลาที่เรียบง่ายแต่เปี่ยมด้วยความรักและความอบอุ่น

    ในวัฒนธรรมเกาหลีเหนือ การแบ่งปันขนมชิ้นเล็ก ๆ นี้ยังถือเป็นการแสดงน้ำใจต่อเพื่อนบ้านอีกด้วย เพราะในยามหนาว การได้ส่งกลิ่นหอมของบังออปังข้ามรั้วไปถึงบ้านข้าง ๆ ก็เป็นเหมือนคำทักทายที่อบอุ่นใจ


    ความทรงจำที่ข้ามพรมแดน

    แม้เส้นแบ่งทางภูมิรัฐศาสตร์จะทำให้เกาหลีเหนือและเกาหลีใต้แยกจากกัน แต่บังออปังกลับเป็นสิ่งหนึ่งที่ยังเชื่อมโยงผู้คนทั้งสองฝั่งไว้อย่างนุ่มนวล ไม่ว่าจะอยู่ในเปียงยางหรือโซล เมื่อได้กลิ่นถั่วแดงกวนอุ่น ๆ ผู้คนต่างก็รู้สึกถึงสิ่งเดียวกัน — ความคิดถึงบ้านและความสุขเรียบง่ายในวันที่อากาศหนาว

    นักท่องเที่ยวบางคนที่ได้ลิ้มรสบังออปังในเขตชายแดน หรือในตลาดพื้นเมืองของเกาหลีเหนือ มักบรรยายว่ามันมี “รสชาติของอดีต” เป็นรสที่เรียบ แต่เต็มไปด้วยความหมาย เหมือนกำลังได้สัมผัสช่วงเวลาที่หยุดนิ่งอยู่ในฤดูหนาวของหลายสิบปีก่อน


    บังออปังในมุมมองของโลกปัจจุบัน

    ในยุคที่อาหารเกาหลีเริ่มแพร่หลายไปทั่วโลก บังออปังก็กลายเป็นของหวานที่ได้รับความนิยมในหลายประเทศ ร้านกาแฟในญี่ปุ่น จีน หรือแม้แต่ยุโรปเริ่มนำสูตรนี้มาปรับให้ร่วมสมัย เช่น ใช้ไส้มัทฉะ ช็อกโกแลต หรือคัสตาร์ด แต่ในขณะเดียวกัน กลิ่นอายดั้งเดิมของบังออปังเกาหลีเหนือยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้เชฟรุ่นใหม่สร้างสรรค์เมนูที่เชื่อมโยงระหว่างอดีตกับปัจจุบัน

    การกลับไปสู่รสชาติที่เรียบง่ายของขนมชนิดนี้ทำให้ผู้คนตระหนักว่า ความสุขแท้จริงอาจไม่จำเป็นต้องมาจากความซับซ้อนของรสชาติ แต่อยู่ในความจริงใจของผู้ทำและความอบอุ่นของผู้กิน

    กลิ่นหอมของอดีตที่ยังไม่เลือนหาย

    แม้โลกจะเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วด้วยเทคโนโลยีและวิถีชีวิตสมัยใหม่ แต่บังออปังสไตล์เกาหลีเหนือยังคงเป็นเสมือน “สะพานแห่งเวลา” ที่เชื่อมคนรุ่นเก่ากับคนรุ่นใหม่เข้าด้วยกัน ในเมืองเล็ก ๆ ทางตอนเหนือของประเทศ ยังมีร้านขนมโบราณที่สืบทอดสูตรนี้จากรุ่นสู่รุ่น เตาเหล็กพิมพ์ปลาเก่าแก่ยังคงถูกใช้ทุกฤดูหนาว และกลิ่นหอมของถั่วแดงที่เคี่ยวจนข้นก็ยังลอยอวลอยู่ในอากาศเหมือนเมื่อหลายสิบปีก่อน

    คนชรามักจะบอกเล่าเรื่องราวของวัยเด็กให้หลานฟังขณะกินบังออปังร้อน ๆ พวกเขาเล่าว่าขนมชิ้นนี้เคยเป็นสิ่งที่ช่วยเยียวยาความเหนื่อยล้าในวันที่ยากลำบาก มันไม่เพียงเติมเต็มความหิว แต่ยังปลอบประโลมหัวใจให้เชื่อว่าพรุ่งนี้จะดีขึ้นอีกนิดหนึ่ง เพราะตราบใดที่ยังมีขนมอุ่น ๆ จากเตา ความหวังก็ยังไม่ดับสูญ

    ในขณะเดียวกัน คนรุ่นใหม่ที่เติบโตในเมืองใหญ่ก็เริ่มหันกลับมาค้นหาความเรียบง่ายแบบดั้งเดิมนี้อีกครั้ง พวกเขามองเห็นในบังออปังไม่ใช่แค่ของหวาน แต่เป็น “รสชาติของรากเหง้า” ที่ช่วยย้ำเตือนถึงสิ่งสำคัญในชีวิต — ความอบอุ่นของครอบครัว การแบ่งปัน และความสุขจากสิ่งเล็ก ๆ ที่ไม่ต้องซับซ้อน


    รสชาติแห่งความทรงจำในยามหนาว

    ในเกาหลีเหนือที่ฤดูหนาวยาวนานและเหน็บหนาวจนแม่น้ำกลายเป็นน้ำแข็ง บังออปังกลายเป็นเหมือนแสงไฟเล็ก ๆ ในคืนอันมืดมิด เมื่อคนเดินตลาดเหน็บหนาวด้วยลมแรง ได้ถือขนมอุ่น ๆ ในมือและกัดคำแรก รสหวานของถั่วแดงจะค่อย ๆ แผ่กระจาย สัมผัสของแป้งหนานุ่มและกลิ่นไหม้อ่อน ๆ จากเตาเหล็กจะทำให้หัวใจอุ่นขึ้นอย่างประหลาด

    เสียงกรอบบาง ๆ ของแป้งที่แตกรับกับความนุ่มของไส้ภายใน กลายเป็นจังหวะของความสบายใจที่ไม่ต้องใช้คำพูดใด ๆ บังออปังจึงไม่ใช่เพียงขนม หากแต่เป็น “ภาษาของฤดูหนาว” ที่ทุกคนเข้าใจโดยไม่ต้องพูดออกมา

    และเมื่อหิมะตกลงมาปกคลุมหลังคาบ้าน เสียงเตาอบเหล็กที่ดังขึ้นตามตรอกเล็ก ๆ ก็กลายเป็นสัญญาณว่าความอบอุ่นยังคงอยู่ในทุกหัวใจ ไม่ว่าจะหนาวสักเพียงใด


    บังออปังในฐานะสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรม

    บังออปังไม่ได้เป็นเพียงอาหารพื้นบ้าน แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมที่แสดงถึงความอดทนและความเรียบง่ายของผู้คนในเกาหลีเหนือ การทำขนมนี้ต้องใช้ความใจเย็นและความแม่นยำในเวลา การพลิกขนมให้สุกพอดีทั้งสองด้านคือศิลปะที่ต้องฝึกฝน ความอดทนในการรอแป้งกลายเป็นสีน้ำตาลทองคือบทเรียนเล็ก ๆ เกี่ยวกับชีวิต — ว่าสิ่งสวยงามต้องใช้เวลา

    ในเทศกาลฤดูหนาว บังออปังมักถูกนำมาเสิร์ฟคู่กับชาอุ่น ๆ หรือซุปถั่วแดง เพื่อให้ร่างกายและใจได้ผ่อนคลายจากอากาศหนาวเย็น ความหอมของถั่วแดงและรสหวานจาง ๆ จึงกลายเป็นสิ่งที่ผู้คนรอคอยทุกปี

    และแม้เกาหลีเหนือจะไม่เปิดกว้างต่อโลกภายนอกมากนัก แต่เรื่องราวของบังออปังก็ยังเล็ดลอดผ่านภาพถ่ายและคำบอกเล่าของนักเดินทางหรือผู้ลี้ภัยที่เคยลิ้มลองมาได้ พวกเขามักพูดตรงกันว่า “บังออปังของเปียงยางไม่เหมือนที่ไหนในโลก” เพราะมันเต็มไปด้วยความจริงใจและความทรงจำของผู้คนที่ทำด้วยหัวใจ


    การตีความใหม่ของขนมคลาสสิก

    เมื่อโลกเริ่มเปิดรับอาหารจากทุกมุมโลกมากขึ้น บังออปังสไตล์เกาหลีเหนือก็เริ่มได้รับความสนใจจากเชฟรุ่นใหม่ในเกาหลีใต้และต่างประเทศ พวกเขาพยายามนำเสนอรสชาติที่ใกล้เคียงต้นฉบับ โดยลดความหวานลง ใช้ถั่วแดงบดหยาบ และอบด้วยพิมพ์เหล็กแบบโบราณ เพื่อให้ได้กลิ่นหอมควันไฟแบบดั้งเดิม

    ในบางคาเฟ่ในโซลหรือปูซาน ยังมีเมนู “บังออปังนอร์ดิก” ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากฝั่งเหนือ โดยจับคู่กับชาร้อนหรือกาแฟคั่วอ่อน เพื่อสร้างประสบการณ์ของ “ความหวานที่เรียบง่าย” ซึ่งกลายเป็นเทรนด์ที่ผู้บริโภครุ่นใหม่ชื่นชอบอย่างมาก

    การฟื้นคืนชีวิตให้บังออปังแบบเกาหลีเหนือจึงไม่ใช่แค่การอนุรักษ์สูตรเก่า แต่เป็นการให้ชีวิตใหม่แก่ขนมที่เคยเป็นเพียงเรื่องเล่าของอดีต ให้กลับมามีบทบาทในโลกสมัยใหม่อีกครั้ง


    บังออปัง: ความหวานที่เชื่อมโยงผู้คน

    สิ่งที่ทำให้บังออปังมีพลังเหนือขนมชนิดอื่น คือความสามารถในการเชื่อมโยงผู้คนข้ามพรมแดน วัฒนธรรม และเวลา มันอาจเริ่มต้นจากขนมถั่วแดงธรรมดา แต่กลับกลายเป็นสัญลักษณ์ของความอบอุ่นที่ทุกคนเข้าใจ

    ในวันที่อากาศหนาวจัด การได้เห็นควันลอยจากเตาอบรูปปลา การได้กลิ่นถั่วแดงเคี่ยว และการได้กัดคำแรกของขนมที่เพิ่งสุกใหม่ คือประสบการณ์ที่ไม่ต้องอธิบายใด ๆ ก็รู้สึกได้ว่าความสุขนั้นอยู่ตรงหน้า

    บังออปังจึงเป็นมากกว่าของหวาน — มันคือเรื่องราวของชีวิต ความรัก ความคิดถึง และความอดทนของผู้คนที่ยังคงยิ้มได้แม้ในวันที่หนาวที่สุด


    บทส่งท้าย: ความอบอุ่นที่ไม่เคยจาง

    ทุกครั้งที่หิมะตกและลมหนาวพัดผ่านตรอกซอยของเมืองในเกาหลีเหนือ กลิ่นของบังออปังที่ลอยมาจากเตาเหล็กยังคงเป็นเครื่องยืนยันว่า ความหวานแบบดั้งเดิมยังไม่สูญหายไปไหน ขนมชิ้นเล็กนี้ไม่เพียงหล่อเลี้ยงร่างกาย แต่ยังหล่อเลี้ยงหัวใจของผู้คนรุ่นแล้วรุ่นเล่า

    ในโลกที่หมุนเร็วและซับซ้อนขึ้นทุกวัน บังออปังสไตล์เกาหลีเหนือเตือนเราว่า ความสุขแท้จริงอาจอยู่ในสิ่งเล็ก ๆ ที่เรียบง่ายที่สุด — กลิ่นถั่วแดงที่อุ่นมือ แป้งกรอบนอกนุ่มใน และรอยยิ้มที่เกิดขึ้นโดยไม่ต้องมีคำพูดใด ๆ

    ดังนั้นในวันที่อากาศหนาว หากคุณได้ถือขนมรูปปลาร้อน ๆ ไว้ในมือ จงหลับตาและสูดกลิ่นหอมของมันให้ลึก เพราะในรสชาติเรียบง่ายนั้น อาจมีเรื่องราวของฤดูหนาวนับร้อยปี และเสียงหัวเราะของผู้คนที่ยังคงเชื่อว่า ความอบอุ่นเล็ก ๆ สามารถทำให้ชีวิตทั้งฤดูหนาวสว่างขึ้นได้เสมอ.

    กิจวัตรดูแล ผิว เช้าและเย็นเพื่อผิวสุขภาพดีและเปล่งประกาย ควันบุหรี่ในบ้าน? นี่คือ ผลกระทบที่น่ากลัวต่อพัฒนาการสมองของลูกน้อย บังออปังสไตล์ เกาหลี เหนือ: รสหวานชวนคิดถึงในวันที่อากาศหนาว
    Walter Turner

    Related Posts

    เลมเปอร์: ข้าวเหนียวไส้ ไก่ รสเค็มมันแสนอร่อย

    October 31, 2025

    การเดินทางของ คันโนลี จากอดีตสู่ปัจจุบัน

    October 30, 2025

    Patat, Kroket และ Bitterballen: ของว่างยอดนิยมของชาว ดัตช์

    October 27, 2025

    Comments are closed.

    Type above and press Enter to search. Press Esc to cancel.